วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555


อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

(กลอนรัก)


     1. บทหนึ่งมี 2 บาท บาทหนึ่งมี 2 วรรค วรรคหน้ามี 5 คำ วรรค

หลังมี 6 คำ รวมบาทหนึ่งมี 11 คำ จึงเรียกว่า ฉันท์ ๑๑


  2. ครุ-ลหุ : คำที่ 3 ของวรรคหน้า กับคำที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ของ



วรรคหลังเป็นลหุ นอกนั้นเป็นครุ


  3. ส่งสัมผัสแบบกาพย์ คำสุดท้ายของวรรคที่ 1 สัมผัสกับคำที่


สามของวรรคที่ 2 (เป็นสัมผัสไม่บังคับ แต่ถ้ามีจะทำให้ฉันท์บทนั้น


ไพเราะยิ่งขึ้น) และ คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 สัมผัสกับคำสุดท้าย


ของวรรคที่ 3


สัมผัสระหว่างบท คือคำสุดท้ายของวรรคที่ 4 ของบทแรก จะต้อง


สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 ในบทถัดไป


  4. ความนิยม อินทรวิเชียรฉันท์ นิยมใช้แต่งข้อความที่เป็นบทชม


หรือบทคร่ำครวญนอกจากนี้ยังแต่งเป็นบทสวด หรือพากย์โขนด้วย

   คำครุ


ได้แก่คำที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา เช่น กา ตี งู กับคำที่


ประสมด้วยสระเสียงสั้นหรือยาวก็ได้ที่มีตัวสะกด เช่น นก บิน จาก รัง 


นอน และคำที่ประสมด้วยสระ อำ ไอ ใอ เอา ซึ่งถึอว่าเป็นเสียงมีตัว


สะกด

   คำลหุ


ได้แก่คำที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา เช่น จะ ติ มุ เตะ และ


คำที่ใช้พยัญชนะคำเดียว เช่น ก็ บ่ ณ ธ นอกจากนี้คำที่ประสมด้วย 


สระอำ บางทีก็อนุโลมให้เป็นคำลหุได้ เช่น ลำ


คำลหุ เวลาเขียนเป็นสัญลักษณ์ ใช้เครื่องหมายเหมือนสระอุ แทน
ตัวอย่าง


   ธมฺโม หเว รกฺ-            ขติ ธมฺมจารึ 


ชนใดหทัยอิง                 สติยึดประพฤติธรรม 
      

   ซื่อสัตย์วิรัติชั่ว             บมิกลั้ว ณ บาปกรรม 


เว้นทิฏฐิสารัม                 ภกิเลสและโทษผยอง 
     

    พร้อมกายวจีจิตร          สุจริตพินิจตรอง 


ธรรมแลจะคุ้มครอง           นรนั้นนิรันดร 
     

    ให้ปราศนิราศทุกข์        ประลุสุขสโมสร 


หลักฐานสถาพร               ธุระกอบก็เกิดผล 
   

     ธรรมแลจะแผ่กั้น          และก็กันมิให้ตน 


ตกต่ำถลำจน                   เจอะอบายวิบัติเขว 
     

     ฉตฺตัง มหนฺตัง            วิย วสฺสกาเล 


เหมือนเมื่อวสันต์เท           ชลหลั่งถะถั่งสาย 
       

     ร่มใหญ่ผิกางกั้น          จะประกันมิเปียกกาย 


ธรรมดุจร่มหมาย               เฉพาะธรรมจารี 
     

     เหตุนี้ประชาชาติ          ละประมาทประพฤติดี 


ยึดธรรมประจำชี                วิตเถิดประเสริฐแล

2 ความคิดเห็น: